Page 13 - Football Prakan ISSUE 8

ปี ที่ 1 ฉบับเดื อนสิงหาคม พ.ศ. 2555 หน้า 13
ซุปฯตาร์คอเนอร์
ค งจะไม่เกินไปนักหากจะบอกว่าฤดูกาลนี้ “เจ้าปอนด์ ” ทักษิ ณ ไชยรส นักเตะตั วเก๋าแห่ง
สมุ ทรปราการ เอฟซี กลายเป็นผู้ เล่นแกนหลักของทีมภายใต้การกุมบั งเหียนของ “โค้ชเป็ด” พงษ์สิริ ยะกัณฐะ
อดีตตำนานพ่อค้าแข้งที่ตอนนี้เป็นกุนซือใหญ่อยู่ แต่กว่า ทักษิณ จะได้รับการยอมรับ และกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ
ของทีม เค้าต้องผ่านเรื่องราวมากมาย กว่าจะได้เป็นตัวเลือกแรกๆ ในผัง 11 ตัวจริงของทัพ “ป้อมปราการ”
จากเด็กน้ อยที่เติบโตในจังหวัดที่ แร้นแค้ นอย่างมหาสารคาม แต่มี ใจให้กับกี ฬาลูกหนัง มาตั้งแต่
เด็ ก เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนคงไม่รู้เลยว่า ช่วงรุ่นๆ ที่ทักษิณได้ร่ำเรียนอยู่ที่วิทยาลัยอาชีวศึ กษามหาสารคาม
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าครั้งหนึ่ง ทั กษิณเคยเป็นนักกี ฬาวอลเลย์บอลตั ววิทยาลัยมาแล้ว
แต่สุดท้ายก็ทนกลิ่ นสาบลูกหนังไม่ ไหวต้ องกลับเข้ าสู่เส้นทางสายนี้อี กครั้ง ซึ่ งหนุ่มน้อยทักษิณ
ก็ได้เดินทางจากดิ นแดนที่ราบสูงเข้าสู่ เมืองกรุง ด้วยการเลื อกอาชีพเตะบอลเดิ นสายกับกลุ่มเพื่อน แต่
สุดท้ายความโชคร้ายก็ มาถามหา เมื่อเจ้าตัวต้องประสบกั บอาการบาดเจ็บ ซึ่ งจากเหตุการณ์นี้เองทำให้
ทักษิณ จึงรอนแรมกลับมารักษาอาการบาดเจ็บที่บ้านเกิ ด
หลั งจากหลบไปเลียบาดแผลจนหายดี เจ้ าตัวก็ตัดสิ นใจออกสู่เมืองใหญ่อี กครั้ง แต่เป้าหมายใน
คราวนี้คือจังหวั ดสมุทรปราการ ด้วยการเข้ าไปทำงานที่นิคมบางปู แต่ทักษิณก็ ไม่ได้ทิ้งความสามารถเชิง
ลูกหนังไปเสียทีเดียว เพราะระหว่างทำงานโรงงานนี้ เจ้าตัวก็ยังหาเวลาไปเดินสายเตะบอลหาเลี้ยงชีพควบไปด้วย
ด้วยความที่มีความสามารถ ก็ทำให้ทักษิณได้ถูกชักชวนมาอยู่กับทีม เทศบาลนครสมุ ทรปราการ
ซึ่ งช่วงที่วงการฟุตบอลบ้ านเรายังฟุบอยู่นั้น ทักษิณเล่าว่า “สมัยนั้นคนเตะบอลในสนามยังมากกว่ าคนดูเสีย
อี ก ถ้านั ดไหนมีมาดูเกิน 10 คนก็ น่าตื่นเต้ นแล้ว”
จนเมื่อโครงสร้างฟุตบอลไทยเข้ าสู่ช่วงเปลี่ ยนแปลง ทำให้เกิ ดลีกอาชีพขึ้นมา กอปรกั บมีชายผู้
นั้นเข้ามารับช่ วงต่อในการบริหาร โดยทางสโมสรได้มีการปรั บเปลี่ยนเป็น สมุทรปราการเอฟซี และฤดูกาล
2009 นี้เองที่ทางสโมสรได้ แชมป์ลีกดิวิชั่น 2 โซนภาคกลาง และภาคตะวั นออก ตั้งแต่ปีแรกที่ร่วมการ
แข่งขัน ซึ่ ง ทักษิณ ก็ได้ร่วมดื่มด่ำความสำเร็จในครั้งนั้นด้ วย แม้เจ้าตัวจะเป็นได้แค่ตัวสำรองคนอื่นเท่ านั้น
หลังจากนั้น ทักษิณ ตั ดสินใจออกไปพิสูจน์ตัวเองว่ามีค่ามากกว่ าสำรองชั้นดี ด้วยการ ย้ ายไปร่วม
ทีม พะเยา เอฟซี ในฤดูกาล 2010 ซึ่งที่ นี้ ทักษิณ ได้รับการยอมรับอย่างมากด้วยการเป็นตัวหลักรวมถึงได้
ปลอกแขนกัปตันทีมดังกว๊านพะเยาด้วย
หลังจากที่โชว์ ฟอร์มได้เข้ าตาที่เมืองพะเยา เจ้าตัวกลับมาสู่ปากน้ำอีกครั้งในเลก 2 ปี 2010 แต่
สุดท้ายก็ยั งถูกหมางเมินในการเรี ยกใช้ในรายชื่อ 11 คนแรกเช่นเคย และเป็นอีกครั้งที่ ทักษิณ ต้องออกจาก
ทีมไปเพื่อหาตำแหน่ งตัวจริงอีกครั้ง ด้วยการมุ่ งสู่ ชุมพร เอฟซี ในปี 2011 แต่เล่นได้ ไม่เท่าไหร่ เจ้าตัวก็ได้รับ
บาดเจ็บอย่างหนัก จนแทบไม่ ได้เล่ นเลย ก่อนกลับมาสู่ บ้านหลั งที่สองอย่าง “ป้อมปราการ” อีกครั้ง
ด้วยความพยายาม ในที่สุด ทักษิณ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักได้ ในฤดูกาลนี้ ซึ่งทักษิณเผยว่า “ชีวิต
เราก็ ต้องสู้ สู้แบบไม่คิดชีวิต สู้แบบไก่ชน” หลายคนอาจสงสัยว่ าทำไมต้องไก่ชน ก็เพราะว่ าไก่ชนเป็นกีฬาที่
ทักษิณเป็นปลื้ มสุดๆ รักแค่ไหน ทั กษิณ เผยว่ า “เคยเอาไก่มานอนด้วยมาแล้ว” อีกทั้ งเพื่อนๆ ยังแอบป้อง
ปากบอกว่า ยามว่างเจ้าตัวมักพาไก่ นั่งรถกินลมเล่นอยู่ บ่อยๆ
เมื่อถามถึงอนาคตในวั ย 29 เจ้าตัวตอบอย่างไม่ ลังเลว่า “หลังจากที่มาอยู่ ที่จังหวัดสมุทรปราการ
นับๆ ดูก็ร่วม 10 ปีแล้ว อนาคตก็คงอยู่ที่นี่ แขวนสตั๊ดที่นี่ และหวังว่าจะได้ โอกาสเป็นหนึ่ งในทีมงานโค้ชสอน
น้องๆ ต่อไปในอนาคต” แต่คงจะนานไปหากเอ่ยถึงการแขวนสตั๊ด ทักษิณเลยบอกต่อว่า “แต่สำหรั บตอนนี้ ก็
จะสู้เพื่อสมุทรปราการเอฟซี เพื่อแฟนบอลป้อมปราการ ทุกๆ คน อย่างเต็มที่แน่นอน”
“ชีวิตเราก็ต้ องสู้ สู้แบบไม่คิ ดชีวิต สู้แบบไก่ชน”