Page 15 - Football Prakan ISSUE 10

ปี ที่ 1 ฉบับเดื อนตุลาคม พ.ศ. 2555 หน้า 15
อนุสรณ์ลู กหลาน
ร.ล.โพสามต้ น จัดเป็นเรือรบประเภท เรือกวาดทุ่นระเบิด เป็นเรือรบที่มี
ขนาดเล็ก มีขนาด ความยาว ๖๗.๕๐ เมตร ความกว้าง ๑๐.๖๘ เมตร
เรือลำนี้เดิมชื่อเรือ H.M.S.MINSTREL เป็นเรือรบของทางสหราชอาณาจักร ถูก
ต่ อขึ้นที่อู่ เรอเฟิร์น คอนสตรัคชั่ น เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ( Redfern
C onstruction Ltd. T oronto, Ontario, Canada ) เมื่อ ๒๗ มิถุ นายน ปี พ.ศ.๒๔๘๗
ก่ อนถูกใช้ ประจำการในกองทัพหราชอาณาจักร (มิถุนายน ๒๔๘๘ – กุ มภาพันธ์
๒๔๙๐)
ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๔๙๐ สหราชอาณาจักร ได้ปลดประจำการ และ
ทำการส่งมอบให้กั บ กองกำลังสำรอง ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่ งในปีเดียวกั นนี้เอง
ทางกองทัพเรือไทย ได้ซื้อเรือ H.M.S.MINSTREL ( เมษายน ๒๔๙๐) และได้
ทำการเปลี่ยนชื่ อเรือเป็นชื่อ เรือรบหลวงโพสามต้น (H.T.M.S. PHOSAMTON)
ตามชื่อสมรภูมิ รบที่สำคัญในประเทศไทย เมื่ อวันที่ ๒๐ พฤศจิ กายน พ.ศ.๒๔๙๐
รวมถึงได้เข้าประจำการณ์ในกองทัพเรือไทยในวันเดียวกันนี้เอง
สำหรับภารกิจในช่วงที่ ร.ล.โพสามต้น ประจำการณ์อยู่ในกองทัพเรือไทย
นั้ น ร.ล.โพสามต้น ได้ เดิ นทางไปร่ วมพิธีสวนสนามทางเรือในพระราชพิ ธีบรม
ราชาภิ เษก (Coronation) สมเด็ จพระนางเจ้าเอลิซาเบธ ที่ ๒ (Elizabeth II)
พระบรมราชิ นีนาถ แห่งประเทศอังกฤษ (๑๕ มิถุ นายน พ.ศ. ๒๔๙๖) โดยมี น.ต.
สนธิ บุณยะชัย (พล.ร.อ.สนธิ บุณยะชั ย) เป็นผู้ บังคับการเรือ
และนี่ถื อเป็ นความภาคภูมิ ใจของประเทศไทย โดยราชนาวีอันเป็น
เอกราชในทวี ปเอเชียนี้มี เพียงประเทศไทย เพียงประเทศเดียวเท่านั้น ที่ ได้ไปร่วม
ในพิธีสวนสนามทางเรือ ซึ่งได้ส่ง ร.ล.โพสามต้น ไปร่วมในพิธีในครั้งนั้น
เนื่องจากตัวเรื อมีเครื่องจักรไอน้ำที่เป็นต้ นแบบเหมาะแก่การศึกษา และ
ฝึ กงาน อีกทั้งเป็นเรือราชนาวีอังกฤษมาก่อน อุปกรณ์ต่ างๆ จึงครบครั นมาก ร.ล.
โพสามต้น นี้ จึงได้เป็ นเรือฝึ กนักเรี ยนนายเรือเรื่ อยมา จนปลดประจำการ เมื่อ
พ.ศ.๒๕๔๗
หลังปลดประจำการเรือรบโพสามต้น ก็ผุพังลงตามกาลเวลา และเตรียม
ที่จะถูกจมเรื อลงเพื่อทำเป็นแนวปะการังในทะเลภาคใต้ต่อไป
ด้วยแรงบัลดาลใจของนายอัครวั ฒน์ มั่นปิยพงศ์ (พี่ แป๊ะ) คณะกรรมการบริ หาร
มูลนิ ธิอู่ต่อเรือบ้านเสม็ดงาม ที่ต้ องการขอเรือรบโพสามต้นไปประดิษฐาน ณ อู่ต่ อ
เรือบ้านเสม็ดงาม จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ “พระบรมราชานุสรณ์สถาน
พระบาทสมเด็ จพระเจ้าตากสินจอมอัครมหาราช” (ศาลพ่ อตากสิ น) เพื่อเป็น
อนุสรณ์สถานเมื่อครั้งพระเจ้าตากสิ นมหาราชได้กู้เอกราชโดยตีค่ายโพสามต้นคืน
จากพม่า
ซึ่งในระหว่ างการอัญเชิญ ร.ล.โพสามต้น นั้นด้วยสภาพเรือที่ทรุ ดโทรม
ตามกาลเวลา ทำให้ เรื อได้ จมลง ณ กรมอู่ทหารเรื อ อ.พระประแดง จ.
สมุทรปราการ ดังนั้น นายอัครวัฒน์ มั่ นปิยะพงศ์ ได้ว่าจ้างบริ ษัทเอกชน มาทำการ
กู้เรือและลากมาที่อู่ต่ อเรือบ้านเสม็ดงาม ด้ วยงบประมาณทั้งสิ้น ๕,๗๐๐,๐๐๐ บาท
(รวมระยะเวลาในการกู้เรือและลากเรือร่วม ๒ เดือนกว่า) โดยเรือรบโพสามต้นได้ถูก
ลากจากกรมอู่ทหารเรือ จ.สมุทรปราการ ในวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๓๙ ถึงอู่
ต่อเรือบ้านเสม็ดงามเมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๕.๓๙ น.
ปั จจุบันเรือรบโพสามต้น นี้ ได้จอดเทียบท่าอยู่ที่ อู่ ต่อเรือบ้ านเสม็ดงาม
จ.จันทบุรี โดยเรือรบลำนี้จะจอดเป็นอนุสรณ์ สถานเคียงคู่ ศาลพ่อตากสิน เพื่อให้
เยาวชน และคนรุ่นหลังคนได้ ตระหนักถึงความเสียสละของบรรพบุรุษไทย ที่ ได้กู้
เอกราชของชาติไทยเมื่อครั้งพระเจ้าตากสิ นมหาราช ได้บุ กตีค่ ายทหารพม่าที่
โพสามต้น และเป็นจุดเริ่มต้นของการกู้เอกราชให้กรุ งศรีอยุธยา จนประเทศไทย
เป็นไทเฉกเช่นทุกวันนี้
เรือรบหลวงโพสามต้ น (H.T.M.S. PHOSAMTON)